
“วราวุธ” เผย พรบ.คุ้มครองเด็ก จ่อเข้าสภา หวังคุ้มครองเด็กให้ชัดเจน เด็กเติบโตพัฒนาการเหมาะสมวัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เสริมความร่วมมือ รัฐ-อปท.-ประชาสังคม ให้ครอบครัว โรงเรียน ชุมชนเป็นแกนหลัก

“วราวุธ” เผย พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก จ่อเข้าสภา หวังคุ้มครองเด็กให้ชัดเจน เด็กเติบโตพัฒนาการเหมาะสมวัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เสริมความร่วมมือ รัฐ-อปท.-ประชาสังคม ให้ครอบครัว โรงเรียน ชุมชนเป็นแกนหลัก
วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ที่กระทรวง พม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. …. ว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. .. และได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาก่อนส่งให้ทางกระทรวง พม. ยืนยันความเห็นพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยตนในฐานะ รมว.พม.ได้ยืนยันกลับไปยังคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วเพื่อให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งไปให้ที่ประชุมสภาพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยกร่างขึ้นเพื่อกำหนดกระบวนการคุ้มครองเด็กให้ชัดเจน เอื้อต่อการแก้ไขสภาพปัญหาต่อพัฒนาการของเด็กที่หลากหลายและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่รวดเร็ว ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม โดยมีครอบครัว โรงเรียน ชุมชนเป็นแกนกลางหลักในการแก้ไขปัญหา จะทำให้เด็กเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ประกอบกับมาตรา 250 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอำนาจดูแลและจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน สมควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการคุ้มครองเด็กมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การคุ้มครองเด็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ…. ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้วมีประเด็นสำคัญ อาทิ กำหนดให้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา , กำหนดบทนิยาม เด็ก เด็กเร่ร่อน เด็กกำพร้า เด็กซึ่งอยู่ในสภาพยากลำบาก เด็กพิการ เด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เด็กซึ่งเสี่ยงต่อการกระทำความผิด นักเรียน ผู้ปกครอง การเลี้ยงดูโดยมิชอบ ความรุนแรง การล่วงเกินทางเพศ สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานพัฒนาและฟื้นฟู สถานพินิจ ครอบครัวทดแทน , กำหนดให้ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามพระราชบัญญัตินี้ , กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ , กำหนดวัตถุประสงค์ของการคุ้มครองเด็ก , ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติซึ่งมี รมว.พม. เป็นประธานกรรมการ มีกรมกิจการเด็กและเยาวชนทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ , ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับจังหวัด
กำหนดกระบวนการคุ้มครองเด็ก โดยผู้พบเห็นเด็กซึ่งตกอยู่ในภาวะเสี่ยง หรือเด็กซึ่งอยู่ในสภาพต้องได้รับการช่วยเหลือคุ้มครอง หรือเด็กถูกกระทำด้วยความรุนแรงเกิดอันตรายต่อสวัสดิภาพ แจ้งให้พนักงานคุ้มครองเด็กทราบเพื่อดำเนินการ กำหนดมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับเด็กดังกล่าว , กำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งและดำเนินการสถานรองรับเด็ก เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ , กำหนดให้มีการขึ้นทะเบียนครอบครัวทดแทน กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการคุ้มครองเด็กเป็นกองทุนในกรมกิจการเด็กและเยาวชน , กำหนดความผิดอาญาสำหรับการฝ่าฝืนข้อห้ามกระทำการต่อเด็ก
.